สวัสดีครับ
เมื่อวันที่ 16/12/2014 กระผมได้พาผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เป็นคนรู้จักของคุณแม่มาเซ็นค้ำประกันในการเรียน แน่นอนว่าบริษัทไม่ยอมเสี่ยงเสียเงินมากกว่าสองล้านบาทโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรอกครับ โดยเงื่อนไขของผู้ที่จะค้ำประกันได้ กระผมขอไม่บอกรายละเอียด ณ ที่นี้ละกันนะครับ แต่จำนวนเงินที่ต้องจ่าย กรณีเรียนไม่สำเร็จไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เท่ากับสองเท่าของค่าเรียนที่บริษัทจ่ายให้นะครับ
อย่างไรก็ตาม พวกผมยังถือว่าเป็นนักเรียนการบินเท่านั้น ไม่ใช่พนักงานของบริษัทนะครับ
ด้วยเหตุนี้เอง นักบินจึงถือเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าค่อนข้างมากเลยทีเดียว เพียงแค่เริ่มต้น ยังไม่บิน พวกกระผมยังต้องมีการเซ็นสัญญามูลค่าหลายล้านเช่่นนี้ อนาคตจะเป็นอย่างไร กระผมจะมารายงานให้ทราบเพิ่มเติมนะครับ
ข้าวโพด 17.12.2014
วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557
วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557
เวชศาสตร์ (re-check ก่อนส่งเรียน)
สวัสดีครับ
อย่างที่บอกไปแล้ว เนื่องจากกระผมถูกดองมาปีนึง ผลการตรวจเวชศาสตร์ที่เคยตรวจมาเลยหมดอายุ จึงต้องทำการตรวจใหม่ โดยกระบวนการตรวจคร่าวๆ จะมี ตรวจฉี่ ตรวจเลือด ตา(แบ่งเป็นสี่รายการย่อยนะครับสำหรับการ recurrent ส่วนผู้ที่มาตรวจเป็นครั้งแรกเพื่อรับใบรับรอง Medical class 1 จะมีรายการตรวจย่อยเยอะกว่านี้) ตรวจปอด(X-Ray) ตรวจการได้ยิน ตรวจฟัน วัดส่วนสูง ความดัน และพบแพทย์ (รายการทั้งหมดที่ผมตรวจมาจะเป็นสำหรับการ recurrent ของผู้ที่มี Medical class 1 อยู่แล้วนะครับ หากมาตรวจครั้งแรกเพื่อขอใบรับรอง จะต้องมีการตรวจที่มากขั้นตอนกว่านี้)
สำหรับบริษัทการบินไทยนั้น ผู้ที่จะมาเป็นนักบินจะต้องมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อเช่น เอดส์ วัณโรค ฯลฯ สายตาสั้นไม่เกิน 300 เอียงไม่เกิน 120 หูได้ยินชัดเจนทั้งสองข้าง ทั้งนี้รายละเอียดของการสอบแต่ละปีต้องสอบถามทางบริษัทเพื่อความมั่นใจจะเป็นการดีที่สุดครับ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1900-3500 นะครับถ้าหากตรวจครั้งแรกจะแพงหน่อย ครั้งต่อๆ มาก็ถูกลง ส่วนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมคือการตรวจ Drug Test อีก 1250 ครับ
ผลการตรวจทั้งหมด ทางโรงพยาบาลจะไม่ให้ผู้ตรวจรับทราบ หากต้องการทราบจะต้องทำเรื่องขอคุยกับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนะครับ
การตรวจทั้งหมดที่เกี่ยวกับผู้ทำการในอากาศ อาทิเช่น นักบินพาณิชย์ ลูกเรือ ทหารอากาศ ฯลฯ จะต้องเข้ารับการตรวจที่เดียวกันหมดคือ เวชศาสตร์การบิน กองทัพอากาศ โรงพยาบาลภูมิพลฯ ครับ
ข้อควรระวังสำหรับผู้ต้องการเป็นนักบินนะครับ คือสายตา ส่วนใหญ่ที่พลาดๆ กันคือสายตาไม่ดีครับ เนื่องจากอาชีพนักบิน ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การที่สายตาก่อนเข้ารับการฝึกมีความผิดพลาดน้อยที่สุดนับเป็นการดี ส่วนการพบเห็นนักบินบางท่านใส่แว่นบินนั้น ถือเป็นการเสื่อมถอยตามสภาพร่างกายครับ ลองคิดกันดูนะครับ ถ้าหากร่างกายสมบูรณ์แต่แรก ความเสื่อมถอยย่อมช้า นี่จึงเป็นสาเหตุที่มีการใช้เกณฑ์เรื่องสายตาในการคัดเลือกนะครับ
ขอบคุณครับ
ข้าวโพด 12.08.2014
ปล. แต่ไม่ว่าคุณจะรู้สึกไม่มั่นใจกับร่างกายคุณยังไงนะครับ หากคุณมีความฝัน ขอให้คุณลองกล้าที่จะเดินไปตามความฝันของคุณซักครั้งนึง ถ้าพลาดคุณก็จะยังแค่เท่าทุนนะครับ แต่หากสำเร็จมันก็คงจะเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจสำหรับคุณมิใช่น้อย ^^
โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
อย่างที่บอกไปแล้ว เนื่องจากกระผมถูกดองมาปีนึง ผลการตรวจเวชศาสตร์ที่เคยตรวจมาเลยหมดอายุ จึงต้องทำการตรวจใหม่ โดยกระบวนการตรวจคร่าวๆ จะมี ตรวจฉี่ ตรวจเลือด ตา(แบ่งเป็นสี่รายการย่อยนะครับสำหรับการ recurrent ส่วนผู้ที่มาตรวจเป็นครั้งแรกเพื่อรับใบรับรอง Medical class 1 จะมีรายการตรวจย่อยเยอะกว่านี้) ตรวจปอด(X-Ray) ตรวจการได้ยิน ตรวจฟัน วัดส่วนสูง ความดัน และพบแพทย์ (รายการทั้งหมดที่ผมตรวจมาจะเป็นสำหรับการ recurrent ของผู้ที่มี Medical class 1 อยู่แล้วนะครับ หากมาตรวจครั้งแรกเพื่อขอใบรับรอง จะต้องมีการตรวจที่มากขั้นตอนกว่านี้)
สำหรับบริษัทการบินไทยนั้น ผู้ที่จะมาเป็นนักบินจะต้องมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อเช่น เอดส์ วัณโรค ฯลฯ สายตาสั้นไม่เกิน 300 เอียงไม่เกิน 120 หูได้ยินชัดเจนทั้งสองข้าง ทั้งนี้รายละเอียดของการสอบแต่ละปีต้องสอบถามทางบริษัทเพื่อความมั่นใจจะเป็นการดีที่สุดครับ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1900-3500 นะครับถ้าหากตรวจครั้งแรกจะแพงหน่อย ครั้งต่อๆ มาก็ถูกลง ส่วนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมคือการตรวจ Drug Test อีก 1250 ครับ
ผลการตรวจทั้งหมด ทางโรงพยาบาลจะไม่ให้ผู้ตรวจรับทราบ หากต้องการทราบจะต้องทำเรื่องขอคุยกับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนะครับ
การตรวจทั้งหมดที่เกี่ยวกับผู้ทำการในอากาศ อาทิเช่น นักบินพาณิชย์ ลูกเรือ ทหารอากาศ ฯลฯ จะต้องเข้ารับการตรวจที่เดียวกันหมดคือ เวชศาสตร์การบิน กองทัพอากาศ โรงพยาบาลภูมิพลฯ ครับ
ข้อควรระวังสำหรับผู้ต้องการเป็นนักบินนะครับ คือสายตา ส่วนใหญ่ที่พลาดๆ กันคือสายตาไม่ดีครับ เนื่องจากอาชีพนักบิน ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การที่สายตาก่อนเข้ารับการฝึกมีความผิดพลาดน้อยที่สุดนับเป็นการดี ส่วนการพบเห็นนักบินบางท่านใส่แว่นบินนั้น ถือเป็นการเสื่อมถอยตามสภาพร่างกายครับ ลองคิดกันดูนะครับ ถ้าหากร่างกายสมบูรณ์แต่แรก ความเสื่อมถอยย่อมช้า นี่จึงเป็นสาเหตุที่มีการใช้เกณฑ์เรื่องสายตาในการคัดเลือกนะครับ
ขอบคุณครับ
ข้าวโพด 12.08.2014
ปล. แต่ไม่ว่าคุณจะรู้สึกไม่มั่นใจกับร่างกายคุณยังไงนะครับ หากคุณมีความฝัน ขอให้คุณลองกล้าที่จะเดินไปตามความฝันของคุณซักครั้งนึง ถ้าพลาดคุณก็จะยังแค่เท่าทุนนะครับ แต่หากสำเร็จมันก็คงจะเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจสำหรับคุณมิใช่น้อย ^^
โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557
Flight School VS Lucky Draw
สวัสดีครับ
การคัดเลือกที่เรียกของบริษัทผมนั้น ใช้วิธีการจับฉลาก โดยมีที่เรียนสามที่ นักเรียนสามสิบคน เป็นจำนวนตกค้างจากปีที่แล้วเก้าคนรวมผมด้วย การจับฉลากนั้น พวกผมไม่มีสิทธิจับเองนะครับ ปีนี้กัปตันเป็นคนจับให้ โดยท่านเริ่มจากพวกผมเก้าคนก่อน กระจายกันไปเป็นโรงเรียนละ 2-3 คน (บังเอิญเพื่อนผมคนนึงมีปัญหาเล็กน้อย จึงไม่สามารถไปเรียนพร้อมพวกผมได้ครับ บริษัทก็ให้เลื่อนไปเรียนพร้อมผลัดต่อไปได้) ผลออกมาคือ ตัวกระผมได้ไปเรียนที่ BAC(Bangkok Aviation Center) คลอง 15 นะครับจากสามตัวเลือกคือ CATC(Civil Aviation Training Center) หัวหิน, กบินทร์บุรี, แล้วก็อันสุดท้ายคือ BAC ที่ผมได้เนี่ยแหละครับ คือตอนแรกกัปตันจะยังไม่บอกว่าได้ที่ไหน ชื่อสถานที่จะถูกกำหนดด้วย A B C เท่านั้น ก็ลุ้นกันไปเรื่อยนะครับ จนกัปตันท่านเฉลย
ถัดจากพวกผมไปก็เป็นพวกพี่ๆ ที่สอบเข้ามาได้ในปีนี้ มีกัน 22 คนนะครับ สำหรับผลัดนี้ ก็กัปตันท่านก็จับฉลากให้ทุกคนจนคนสุดท้ายแล้วค่อยบอกที่ทางว่าจะได้ไปเรียนที่ไหน ที่ๆ จะเป็นโรงเรียนฝึกคนให้บินได้ในอีกหนึ่งปีนับจากนี้
หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกที่เรียนแล้ว ก็เป็นการนัดหมายครั้งต่อไป คือการตรวจ Drug Test และตรวจร่างกายที่ เวชศาสตร์การบิน โรงพยาบาลภูมิพล นะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะมาอัพเดทเรื่อยๆ นะครับบ
ขอบคุณครับ
ข้าวโพด 06.12.2014
ปล. ที่เรียนผมนะค้าบบ ----> Bangkok Aviation Center
การคัดเลือกที่เรียกของบริษัทผมนั้น ใช้วิธีการจับฉลาก โดยมีที่เรียนสามที่ นักเรียนสามสิบคน เป็นจำนวนตกค้างจากปีที่แล้วเก้าคนรวมผมด้วย การจับฉลากนั้น พวกผมไม่มีสิทธิจับเองนะครับ ปีนี้กัปตันเป็นคนจับให้ โดยท่านเริ่มจากพวกผมเก้าคนก่อน กระจายกันไปเป็นโรงเรียนละ 2-3 คน (บังเอิญเพื่อนผมคนนึงมีปัญหาเล็กน้อย จึงไม่สามารถไปเรียนพร้อมพวกผมได้ครับ บริษัทก็ให้เลื่อนไปเรียนพร้อมผลัดต่อไปได้) ผลออกมาคือ ตัวกระผมได้ไปเรียนที่ BAC(Bangkok Aviation Center) คลอง 15 นะครับจากสามตัวเลือกคือ CATC(Civil Aviation Training Center) หัวหิน, กบินทร์บุรี, แล้วก็อันสุดท้ายคือ BAC ที่ผมได้เนี่ยแหละครับ คือตอนแรกกัปตันจะยังไม่บอกว่าได้ที่ไหน ชื่อสถานที่จะถูกกำหนดด้วย A B C เท่านั้น ก็ลุ้นกันไปเรื่อยนะครับ จนกัปตันท่านเฉลย
ถัดจากพวกผมไปก็เป็นพวกพี่ๆ ที่สอบเข้ามาได้ในปีนี้ มีกัน 22 คนนะครับ สำหรับผลัดนี้ ก็กัปตันท่านก็จับฉลากให้ทุกคนจนคนสุดท้ายแล้วค่อยบอกที่ทางว่าจะได้ไปเรียนที่ไหน ที่ๆ จะเป็นโรงเรียนฝึกคนให้บินได้ในอีกหนึ่งปีนับจากนี้
หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกที่เรียนแล้ว ก็เป็นการนัดหมายครั้งต่อไป คือการตรวจ Drug Test และตรวจร่างกายที่ เวชศาสตร์การบิน โรงพยาบาลภูมิพล นะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะมาอัพเดทเรื่อยๆ นะครับบ
ขอบคุณครับ
ข้าวโพด 06.12.2014
ปล. ที่เรียนผมนะค้าบบ ----> Bangkok Aviation Center
สวัสดีครับ
สวัสดีครับ
ทุกๆท่านที่ผ่านเข้ามาใน blog ของกระผม นาย ข้าวโพด อายุ ยี่สิบกว่าๆ เป็นศิษย์การบินของสายการบินแห่งหนึ่งนะครับ ขอใช้พื้นที่นี้ในการเขียนไดอารี่และแชร์ประสบการณ์ แก่ผู้มีใจรักในการบินทุกๆท่านนะครับ
ก่อนอื่นเลยต้องเกริ่นก่อนว่า กระผมสอบติดตั้งแต่ปีที่แล้วละครับ เพียงแต่บริษัทเพิ่งจะส่งให้ไปเรียนปีนี้ กระผมจึงจะขอเริ่มบันทึก ตั้งแต่วันที่ได้เข้าไปรายงานตัวเลือกที่เรียนละกันนะครับ ส่วนกระบวนการสอบทั้งหมด จะขอแยกเขียนไว้ต่างหากอีกทีนึง
ขอบคุณครับ
ข้าวโพด 06.12.2014
ทุกๆท่านที่ผ่านเข้ามาใน blog ของกระผม นาย ข้าวโพด อายุ ยี่สิบกว่าๆ เป็นศิษย์การบินของสายการบินแห่งหนึ่งนะครับ ขอใช้พื้นที่นี้ในการเขียนไดอารี่และแชร์ประสบการณ์ แก่ผู้มีใจรักในการบินทุกๆท่านนะครับ
ก่อนอื่นเลยต้องเกริ่นก่อนว่า กระผมสอบติดตั้งแต่ปีที่แล้วละครับ เพียงแต่บริษัทเพิ่งจะส่งให้ไปเรียนปีนี้ กระผมจึงจะขอเริ่มบันทึก ตั้งแต่วันที่ได้เข้าไปรายงานตัวเลือกที่เรียนละกันนะครับ ส่วนกระบวนการสอบทั้งหมด จะขอแยกเขียนไว้ต่างหากอีกทีนึง
ขอบคุณครับ
ข้าวโพด 06.12.2014
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)